รับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี ปิดงบการเงิน ปิดงบย้อนหลัง ปิดงบด่วน ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ประสบการณ์กว่า 20 ปี
Home ห้องสนทนา ปัญหาการบริการด้านภาษี การแก้ไขรายการในใบกำกับภาษี และรายงานภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องทราบ
 กระดานสนทนา :: ปัญหาการบริการด้านภาษี
ยินดีต้อนรับ บุคคลทั่วไป   [ลงทะเบียน]  เข้าสู่ระบบ
 หัวข้อกระทู้ :การแก้ไขรายการในใบกำกับภาษี และรายงานภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องทราบ.. 10-12-2013 18:44:10 
su

บุคคลทั่วไป
การแก้ไขรายการในใบกำกับภาษี และรายงานภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องทราบ
 เป็นไปตามนโยบายการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งจะส่งผลต่อการขยายฐานภาษีเงินได้ด้วย
 ตามที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้กรมสรรพากรกู้เงินประมาณ 2 พันล้านบาท
 เพื่อเพิ่มคอมพิวเตอร์และกำลัง เจ้าหน้าที่ทำโครงการเชื่อมโยงระบบใบกำกับภาษีตั้งแต่ต้นยันปลายทางเพื่อขยายฐานภาษี
ในที่สุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา อธิบดีกรมสรรพากรออกประกาศอธิบดี เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 194 ,195,196 ,197
แก้ไขหลักเกณฑ์การออกใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และการจัดทำรายงานภาษีซื้อ
 มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป
 สาระสำคัญมีดังต่อไปนี้
1)ใบกำกับภาษี ที่ออกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป ต้อง 1)
ระบุเลขผู้เสียภาษีของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการไว้ในใบกำกับภาษีด้วย (เฉพาะกรณีที่ผู้ซื้อสินค้า หรือรับบริการมีเลขผู้เสียภาษี)
 2) ใบกำกับภาษีที่ออกโดยสำนักงานใหญ่หรือสาขาต้องระบุ “สำนักงานใหญ่” หรือ “สาขาที่ ..” ที่ออก ใบกำกับภาษีตามที่จดทะเบียนในภพ. 20 ไว้ในใบกำกับภาษีด้วย
3) ใบกำกับภาษีที่ออกให้ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการที่เป็นสำนักงานใหญ่ หรือสาขา ต้องระบุ “สำนักงานใหญ่” หรือ “สาขาที่ ..” ของผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการตามที่จดทะเบียนในภพ.20 ไว้ด้วย เช่นกัน โดยการระบุคำว่าสำนักงานใหญ่หรือสาขานั้น
จะจัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ประทับ ด้วยตรายาง เขียนด้วยหมึก พิมพ์ดีด หรือทำให้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีการอื่นใดในทำนองเดียวกันก็ได้
 (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 196) เรื่อง กำหนดข้อความอื่นใน ใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 (8) แห่งประมวลรัษฎากร)
 2. การออกใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป เป็นไปในแนวทางเดียวกับการออกใบกำกับภาษีตามข้อ 1 กล่าวคือ ต้องระบุ
 1) เลขผู้เสียภาษีของผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ (เฉพาะกรณีที่ผู้รับใบกำกับภาษีมีเลขผู้เสียภาษี)
 2) ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ที่ออกตามใบกำกับภาษี ถ้าใบกำกับภาษีนั้นเคยระบุ “สำนักงานใหญ่” หรือ “สาขาที่ ..” ที่ออก ต้องระบุ“สำนักงานใหญ่” หรือ “สาขาที่ ..” ที่ออกใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ด้วย เช่นกัน (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 194) เรื่อง กำหนดข้อความอื่น ในใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 (7) แห่งประมวลรัษฎากร และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 195) เรื่อง กำหนดข้อความอื่นในใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 (7) แห่งประมวลรัษฎากร)
3. รายงานภาษีซื้อ ที่จัดทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 1) เพิ่มช่อง เลขผู้เสียภาษีของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ 2) เพิ่มช่อง “สำนักงานใหญ่” และ “สาขาที่ ” ของผู้ขายที่ออกใบกำกับภาษี (ดูแบบได้ตามไฟล์เอกสาร แนบ) (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 197) เรื่อง กำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดทำรายงาน การลงรายการในรายงาน การเก็บใบกำกับภาษีและเอกสาร หลักฐานอื่นที่ใช้ประกอบการลงรายงานภาษีซื้อตามมาตรา 87 และมาตรา 87/3 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร) กรม
สรรพากรคาดว่าการเชื่อมโยงใบกำกับภาษีตามโครงการนี้จะทำให้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่นได้ เพิ่มขึ้น 100,000 ล้านบาท และอาจถึง 300,000 ล้านบาทเมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งเป็นการขยายฐานผู้เสียภาษี ไปด้วยในตัว
IP Logged
หน้า # 


Powered by ccBoard


Joomla SEO powered by JoomSEF